อีทราน (ไทยแลนด์) สตาร์ทอัพสายยานยนต์ที่มุ่งเป็นผู้นำให้เกิดการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หลังประกาศความสำเร็จในการระดมทุนสู่ Series A มูลค่าราว 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 100 ล้านบาท จาก 2 นักลงทุน NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางล้อรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทย และ Angel investor หรือเปบบบริหารฟลีท (Fleet) สามารถเก็บข้อมูลเส้นทาง ระยะและเวลาขนส่ง ระยะและเวลาบนถนน เพื่อนำข้อมูลมาบริหารแผนธุรกิจเพื่อกลุ่มธุรกิจขนส่งโดยเฉพาะ ด้วยรูปแบบการเป็นเจ้าของรถที่ง่ายและประหยัดกว่า 3 วิธี คือ การซื้อ การเช่า และการเป็นสมาชิก โดยจะมีโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว ค่าเช่าเพียงวันละ 150 บาท รวมบริการ Swap แบตเตอรี่ที่สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ETRAN Power Station ตั้งเป้ามีรถ ETRAN MYRA วิ่งบนถนน 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2564 นี้ เผยเตรียมจับมือแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ นำ ETRAN MYRA ร่วมให้บริการ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต และจุดประกายสังคม ให้หันมาใส่ใจการรักษาคุณภาพอากาศ เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า
นายอาร์ชวัส เจริญศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) เปิดเผยว่า หนึ่งในแผนธุรกิจของ ETRAN ในปี 2564 นี้ หลังจากการระดมทุนสู่ Series A ด้วยมูลค่าราว 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 100 ล้านบาท จากนักลงทุน 2 ราย คือ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางล้อรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทย และ Angel investor หรือนักลงทุนอิสระ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คือการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 2 รุ่นออกสู่ตลาด นอกเหนือจากการเร่งพัฒนาองค์กรและสร้างแบรนด์ เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ล่าสุด บริษัทฯ ได้ออกแบบและพัฒนา ETRAN MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เพื่อกลุ่มไรเดอร์เดลิเวอรี่ และกลุ่มธุรกิจขนส่งโดยเฉพาะ ด้วยการร่วมมือกับ 4 พันธมิตร ทั้ง Summit Auto Body, Pioneer Motor PLC, N.D. Rubber PLC และ Nostra Logistics
“ปัจจุบันบริการเดลิเวอรี่นับเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากพฤติกรรม และรูปแบบการบริโภคของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการสั่งซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจบริการส่งพัสดุ เติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกกับทั้งบริการส่งพัสดุและบริการส่งอาหาร หรือ Food Delivery มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีผู้เล่นเพิ่มเข้ามาให้บริการมากขึ้นกว่าเดิม ETRAN มองเห็นโอกาสในการออกแบบ และพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อผู้ใช้งานกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ควบคู่กับช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าให้กับสังคม ตามแนวคิด Drive the Better World โดยตั้งเป้าส่งมอบรถ ETRAN MYRA แก่ลูกค้าจำนวน 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2564 นี้ ทั้งนี้ ETRAN มีแผนที่จะจับมือกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เพื่อนำ ETRAN MYRA เป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ให้บริการเดลิเวอรี่เร็วๆ นี้” นายอาร์ชวัส กล่าว

“ปัจจุบันบริการเดลิเวอรี่นับเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากพฤติกรรมและรูปแบบการบริโภคของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการสั่งซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจบริการส่งพัสดุเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกกับทั้งบริการส่งพัสดุและบริการส่งอาหาร หรือ Food Delivery มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีผู้เล่นเพิ่มเข้ามาให้บริการมากขึ้นกว่าเดิม ETRAN มองเห็นโอกาสในการออกแบบ และพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อผู้ใช้งานกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ควบคู่กับช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าให้กับสังคมตามแนวคิด Drive the Better World โดยตั้งเป้าส่งมอบรถ ETRAN MYRA แก่ลูกค้าจำนวน 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2564 นี้ ทั้งนี้ ETRAN มีแผนที่จะจับมือกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เพื่อนำ ETRAN MYRA เป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ให้บริการเดลิเวอรี่เร็วๆ นี้” นายอาร์ชวัส กล่าว

นายสรณัญช์ ชูฉัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด (ETRAN) กล่าวเสริมว่า จากข้อมูลเชิงลึกที่ ETRAN ได้พูดคุยและสอบถามจากกลุ่มไรเดอร์เดลิเวอรี่ พบว่าปัจจัยด้านประสิทธิภาพของการใช้งานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจใช้งาน อาทิ ความเร็วในการขับขี่ ต้องไม่น้อยกว่ามอเตอร์ไซค์น้ำมันทั่วไป เพื่อสามารถส่งของให้ลูกค้าได้โดยเร็ว สามารถทำรอบได้มากขึ้นพร้อมทั้งความปลอดภัยในการขับขี่มาตรฐาน ต้องวิ่งได้ระยะทางไกลเพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน อย่างน้อย 120 – 150 กิโลเมตรในหนึ่งวัน และมีบริการหลังการขายที่พร้อมไม่เสียโอกาสในการหารายได้หากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีปัญหา ซึ่งกลุ่มผู้ขับขี่ยังมองถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายหากเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาและการเติมน้ำมันสูงสุดถึงวันละกว่า 100 บาท ในกรณีที่มีรอบเดลิเวอรี่สูงๆ รวมถึงหากมีบริการเช่าใช้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ขับขี่โดยตรง ทำให้ ETRAN MYRA รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดจาก ETRAN ได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่คล่องตัว เพื่อการขนส่งในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ในขณะที่ยังคงทรงประสิทธิภาพในการขับขี่ รองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. ให้เร่งแซง หรือขึ้นสะพานชัน ๆ ได้ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงภายใน 7 วินาที วิ่งส่งงานได้ต่อเนื่องไกลที่สุดเท่าที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีมา ด้วยระยะทางต่อการชาร์จถึง 180 กม. รวดเร็วด้วยการ Swap หรือแค่ถอดแบตเตอรี่ลูกเก่า แล้วเสียบแบตเตอรี่ลูกใหม่ ไม่ต้องรอชาร์จ ไม่เสียโอกาสวิ่งทำรอบส่งของ

ETRAN MYRA ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการขนส่งโดยเฉพาะ จึงสามารถติดกล่องใส่ของ หรือติดตู้เย็นได้สะดวกสบาย ทั้งยังมาพร้อมกับระบบเทคโนโลยีการบริหารจัดการ Fleet โดย Nostra Logistics สำหรับองค์กรฯ หรือ Fleet Management System สามารถติดตามรถได้ตลอดเวลา เพื่อประสิทธิภาพในการบริการขนส่งที่ดีที่สุด นอกจากนี้การออกแบบและพัฒนา ETRAN MYRA ยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น N.D. Rubber ในการพัฒนายางล้อรถที่พร้อมรองรับประสิทธิภาพสูงของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในส่วนของขุมกำลัง ETRAN ได้จับมือกับ Pioneer Motor ร่วมพัฒนามอเตอร์สมรรถนะสูงต่อไป ทั้งนี้ ETRAN MYRA นั้นผลิตและประกอบโดย Summit Auto Body ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีประสบการณ์และได้รับการยอมรับจากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำของโลก

“อีทราน มีเป้าหมายเปลี่ยนวงการรถมอเตอร์ไซค์สู่พลังงานสะอาด ด้วยการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ตระหนักว่าพวกเขามีส่วนช่วยสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งไม่สร้างมลพิษทางอากาศและมลพิษเสียงเพื่อโลกที่ดีกว่า ทั้งนี้ เพื่อให้เดลิเวอรี่ไรเดอร์สามารถเป็นเจ้าของ ETRAN MYRA ได้ง่ายกว่าและประหยัดกว่า ETRAN ได้ออกแบบรูปแบบการเป็นเจ้าของรถ ETRAN MYRA เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในราคาเพียงวันละ 150 บาท ซึ่งในราคานี้รวมบริการ Swap แบตเตอรี่ที่สถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ETRAN Power Station โดยผู้ใช้สามารถใช้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ที่ ETRAN Power Station ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาชาร์จ มีแผนขยายสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้ครบ 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ และหากเปรียบเทียบกับการซื้อรถมอเตอผลิตร์ไซค์ทั่วไปซึ่งต้องมีเงินดาวน์ก้อนรวมค่างวดรายเดือน ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาที่เฉลี่ยรวมเดือนละกว่า 5-6 พันบาท ก็จะสามารถช่วยให้ไรเดอร์เดลิเวอรี่ประหยัดถึงเดือนละ 2-3 พันบาท” นายสรณัญช์ กล่าวทิ้งท้าย